ประกันชีวิต มี หลายแบบให้เลือก
ขึ้นอยู่กับความจำเป็นและความต้องการของแต่ละคน ดังนี้
- ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ
- ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์
- ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา
- ประกันชีวิตแบบยูนิตลิงค์
- ประกันบำนาญ
แบบตลอดชีพ (Whole Life)
หมายถึงแบบที่คุ้มครองจนถึงอายุ 99 ปี หรือ 90 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัที่ออกแบบมา ส่วนใหญ่จะชำระเบี้ย 20 ปี 10 ปี หรือ 5 ปี ซึ่งจะเขียนสั้นๆว่า 20/99 , 10/99 , 5/99 หรือ 90/20 , 90/10 เป็นต้น
ต่างประเทศมักนิยมทำประกันชีวิตแบบนี้ เพราะได้ทุนประกันที่สูง ขณะเดียวกัน เบี้ยประกันถูก ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน เบี้ยต่อทุน ประมาณ 3%-4% สำหรับเพศชายอายุ 35ปีขึ้นไป ซึ่งนับว่าถูกมาก หรือ พูดให้เข้าใจง่ายก็คือ เบี้ยประกันประมาณ 30,000 - 40,000 สามารถได้ทุนประกันสูงถึง 1 ล้านบาท
แบบประกันแบบนี้ เหมาะกับใคร
- ผู้ที่เน้นเรื่องความคุ้มครองชีวิต เป็นหลัก
- ผู้ที่มีหนี้สิน เช่นผ่อนบ้าน ทำธุรกิจ กู้เงิน O/D กับธนาคารไว้
- ทำคู่กับประกันสุขภาพเพราะคุ้มครองยาวจนถึง 90 -99ปี
- เบี้ยถูก เน้นความคุ้มครองสูงมาก
แบบสะสมทรัพย์ Endowment )
หมายถึงแบบตามชื่อเลยค่ะ คือ เป็นแบบที่ชำระเบี้ย เสมือนได้ออมเงินไปด้วย เพราะเบี้ยที่ชำระไป ไม่สูญเปล่า มีมูลค่าตามตารางมูลค่าของแต่ละแบบเลยเช่น แบบ 7/15 คือ แบบสะสมทรัพย์ 7 ปี คุ้มครอง 15 ปี
มีเงินคืนระหว่างทาง เมื่อครบกำหนดมีเงินก้อนให้
แต่แบบนี้จะมีข้อเสียและข้อดีในเวลาเดียวกันคือ
มีระยะเวลาจบ สั้นๆ เช่น 7 ปี 15 ปี 25 ปี แล้วแต่แบบ และเบี้ยจะสูงกว่าแบบตลอดชีพ
ข้อเสียคือ ไม่เหมาะกับการทำคู่กับแบบประกันสุขภาพ เนื่องจาก ระยะเวลาสั้น เมื่อครบกำหนดแล้ว แต่ประกันสุขภาพต้องการความคุ้มครองต่อเนื่อง จึงต้องมาเริ่มต้นทำฉบับใหม่ แต่สุขภาพบางท่าน อาจจะมีปัญหา เมื่อต้องเริ่มทำฉบับใหม่ อาจจะถูกเพิ่มเบี้ย หรือไม่คุ้มครองโรคที่เป็นมาก่อน เป็นต้น
แบบนี้ เหมาะกับผู้ที่ต้องการออมเงินไปพร้อมๆกับความต้องการด้านความคุ้มครองชีวิตไปด้วย
- เหมาะกับการวางแผนเกษียณอายุ
- เหมาะกับการวางแผนกองทุนการศึกษาบุตร
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการเก็บออมระยะสั้น
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการเพื่อลดหย่อนภาษีเป็นหลัก
แต่ในภาวะปัจจุบัน ที่ดอกเบี้ยและสภาพเศรษฐกิจภายนอกไม่เอื้ออำนวย จึงทำให้หลายบริษัทยุติการขายแบบสะสมทรัพย์ ไปหลายแบบใน หลายๆบริษัท เนื่องจากไม่สามารถการันตี ผลตอบแทน ได้ในระยะเวลานานๆตามแบบประกัน
แบบชั่วระยะเวลา ( Term )
แบบชั่วระยะเวลา เป็นแบบที่เหมาะกับผู้ที่เน้นให้คุ้มครองสั้นๆชั่วระยะเวลาใด เวลาหนึ่ง เช่น คุ้มครอง 5 ปี หรือ 10 ปี แล้วจบกันไป
แบบประกันแบบนี้ จะไม่มีมูลค่ากรมธรรม์ใดๆเมื่อครบสัญญา เพราะเน้นเรื่องความคุ้มครองชีวิตเป็นหลัก
เบี้ยจะถูกมาก แต่ได้ความคุ้มครองชีวิตสูง แบบประกันแบบนี้จึงเหมาะกับ
- ผู้ที่มีภาระหนี้สินกับธนาคาร เช่นผ่อนบ้าน
- ผู้ที่มีภาระหนี้สินในเชิงธุรกิจกับธนาคาร เช่นกู้วงเงินสินเชื่อ O/D
- การทำประกันผู้บริหาร ( KeyMan ) ของบริษัท องค์กร
แบบยูนิตลิงค์ ( Unit Link)
แบบยูนิตลิงค์ เป็นแบบประกันที่เกิดมาใหม่มากในวงการประกันชีวิต บ้านเรา เป็นแบบที่ผู้เอาประกันมีส่วนร่วมในการลงทุนด้วยผ่านกองทุนรวม ภายใต้กองทุนรวมที่บริษัทประกันนั้นๆ คัดสรรมาให้แล้ว ซึ่งแบบนี้มีข้อดี ตรงที่ลูกค้าสามารถ
- กำหนด ทุนประกันได้เอง
- กำหนดเบี้ยประกันได้เอง
- กำหนดผลตอบแทนที่ต้องการได้เอง
- กำหนดวิธีการลงทุนได้เอง ว่าต้องการความเสี่ยงระดับไหน
- กำหนดวิธีการหยุดพักชำระเบี้ยได้ โดยที่กรมธรรม์ไม่ขาดอายุ
กรมธรรม์แบบยูนิตลิงค์ เหมาะกับใครบ้าง
- เหมาะกับผู้ที่เข้าใจเรื่องการลงทุนในกองทุนรวมมาบ้างว่ามีโอกาสกำไรและขาดทุน
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการทุนประกันสูงๆ เบี้ยต่ำๆ เพราะเราสามารถกำหนดเองได้
- เหมาะกับผู้ที่วางแผนการเงินระยะยาว
- เหมาะในการวางแผนการประกันสุขภาพแบบ Long Term Health Care คือ จ่ายเบี้ยในระยะเริ่มแรกสูงกว่าปกติ แต่ในระยะยาว เมื่ออายุมากขึ้น ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเลย เพื่อให้มูลค่าในกองทุนเลี้ยงตัวมันเอง
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิด ถึง อายุ 45 ปี ที่ต้องการออมเงิน และวางแผนเรื่องการทำ Long Term Health Care
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีหนี้สินระยะยาว ต้องการความคุ้มครองสูง
แบบประกันชีวิต ทั้ง 4 แบบ เป็นแบบที่ยังมีขายอยู่ในตลาดในปัจจุบันนี้ และสามารถนำเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีได้เต็มมูลค่าสูงสุดถึง 100,000 บาทต่อปี
ประกันบำนาญ
ประกันบำนาญ เป็นประกันที่ช่วยให้เราเก็บเงินอย่างมีระบบ และมีการการันตีผลตอบแทน เพื่อเราจะได้มีเงินใช้ในยามเกษียณอย่างแน่นอน และที่สำคัญ ช่วงที่ออมเงินก่อนวัยเกษียณยังสามารถนำเงินออมที่เรียกว่าเบี้ยประกันบำนาญมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 200,000 บาทอีกด้วย
ติดต่อตัวแทน
0 ความคิดเห็น