ประกันชีวิต


ประกันชีวิต มี หลายแบบให้เลือก
ขึ้นอยู่กับความจำเป็นและความต้องการของแต่ละคน ดังนี้
  1. ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ
  2. ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์
  3. ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา
  4. ประกันชีวิตแบบยูนิตลิงค์
  5. ประกันบำนาญ

แบบตลอดชีพ (Whole Life)

หมายถึงแบบที่คุ้มครองจนถึงอายุ 99 ปี หรือ 90 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัที่ออกแบบมา ส่วนใหญ่จะชำระเบี้ย 20 ปี 10 ปี หรือ 5 ปี ซึ่งจะเขียนสั้นๆว่า 20/99 , 10/99 , 5/99 หรือ 90/20  , 90/10 เป็นต้น
ต่างประเทศมักนิยมทำประกันชีวิตแบบนี้ เพราะได้ทุนประกันที่สูง ขณะเดียวกัน เบี้ยประกันถูก ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน เบี้ยต่อทุน ประมาณ 3%-4%  สำหรับเพศชายอายุ 35ปีขึ้นไป ซึ่งนับว่าถูกมาก หรือ พูดให้เข้าใจง่ายก็คือ เบี้ยประกันประมาณ 30,000 - 40,000 สามารถได้ทุนประกันสูงถึง 1 ล้านบาท

แบบประกันแบบนี้ เหมาะกับใคร
  • ผู้ที่เน้นเรื่องความคุ้มครองชีวิต เป็นหลัก
  • ผู้ที่มีหนี้สิน เช่นผ่อนบ้าน  ทำธุรกิจ กู้เงิน O/D กับธนาคารไว้
  • ทำคู่กับประกันสุขภาพเพราะคุ้มครองยาวจนถึง 90 -99ปี 
  • เบี้ยถูก เน้นความคุ้มครองสูงมาก

แบบสะสมทรัพย์  Endowment )

หมายถึงแบบตามชื่อเลยค่ะ คือ เป็นแบบที่ชำระเบี้ย เสมือนได้ออมเงินไปด้วย เพราะเบี้ยที่ชำระไป ไม่สูญเปล่า มีมูลค่าตามตารางมูลค่าของแต่ละแบบเลยเช่น แบบ 7/15 คือ แบบสะสมทรัพย์ 7 ปี คุ้มครอง 15 ปี
มีเงินคืนระหว่างทาง  เมื่อครบกำหนดมีเงินก้อนให้

แต่แบบนี้จะมีข้อเสียและข้อดีในเวลาเดียวกันคือ
มีระยะเวลาจบ สั้นๆ เช่น 7 ปี 15 ปี  25 ปี แล้วแต่แบบ และเบี้ยจะสูงกว่าแบบตลอดชีพ
ข้อเสียคือ ไม่เหมาะกับการทำคู่กับแบบประกันสุขภาพ เนื่องจาก ระยะเวลาสั้น เมื่อครบกำหนดแล้ว แต่ประกันสุขภาพต้องการความคุ้มครองต่อเนื่อง จึงต้องมาเริ่มต้นทำฉบับใหม่ แต่สุขภาพบางท่าน อาจจะมีปัญหา เมื่อต้องเริ่มทำฉบับใหม่ อาจจะถูกเพิ่มเบี้ย หรือไม่คุ้มครองโรคที่เป็นมาก่อน เป็นต้น

แบบนี้ เหมาะกับผู้ที่ต้องการออมเงินไปพร้อมๆกับความต้องการด้านความคุ้มครองชีวิตไปด้วย
  • เหมาะกับการวางแผนเกษียณอายุ
  • เหมาะกับการวางแผนกองทุนการศึกษาบุตร
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการเก็บออมระยะสั้น
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการเพื่อลดหย่อนภาษีเป็นหลัก
แต่ในภาวะปัจจุบัน ที่ดอกเบี้ยและสภาพเศรษฐกิจภายนอกไม่เอื้ออำนวย จึงทำให้หลายบริษัทยุติการขายแบบสะสมทรัพย์ ไปหลายแบบใน หลายๆบริษัท เนื่องจากไม่สามารถการันตี ผลตอบแทน ได้ในระยะเวลานานๆตามแบบประกัน

แบบชั่วระยะเวลา (  Term )

แบบชั่วระยะเวลา เป็นแบบที่เหมาะกับผู้ที่เน้นให้คุ้มครองสั้นๆชั่วระยะเวลาใด เวลาหนึ่ง เช่น คุ้มครอง 5 ปี หรือ 10 ปี แล้วจบกันไป 
แบบประกันแบบนี้ จะไม่มีมูลค่ากรมธรรม์ใดๆเมื่อครบสัญญา  เพราะเน้นเรื่องความคุ้มครองชีวิตเป็นหลัก
เบี้ยจะถูกมาก แต่ได้ความคุ้มครองชีวิตสูง  แบบประกันแบบนี้จึงเหมาะกับ
  • ผู้ที่มีภาระหนี้สินกับธนาคาร เช่นผ่อนบ้าน 
  • ผู้ที่มีภาระหนี้สินในเชิงธุรกิจกับธนาคาร เช่นกู้วงเงินสินเชื่อ O/D
  • การทำประกันผู้บริหาร ( KeyMan ) ของบริษัท องค์กร

แบบยูนิตลิงค์ ( Unit Link)

แบบยูนิตลิงค์ เป็นแบบประกันที่เกิดมาใหม่มากในวงการประกันชีวิต บ้านเรา เป็นแบบที่ผู้เอาประกันมีส่วนร่วมในการลงทุนด้วยผ่านกองทุนรวม ภายใต้กองทุนรวมที่บริษัทประกันนั้นๆ คัดสรรมาให้แล้ว ซึ่งแบบนี้มีข้อดี ตรงที่ลูกค้าสามารถ
  • กำหนด ทุนประกันได้เอง
  • กำหนดเบี้ยประกันได้เอง
  • กำหนดผลตอบแทนที่ต้องการได้เอง
  • กำหนดวิธีการลงทุนได้เอง ว่าต้องการความเสี่ยงระดับไหน
  • กำหนดวิธีการหยุดพักชำระเบี้ยได้ โดยที่กรมธรรม์ไม่ขาดอายุ
กรมธรรม์แบบยูนิตลิงค์ เหมาะกับใครบ้าง
  • เหมาะกับผู้ที่เข้าใจเรื่องการลงทุนในกองทุนรวมมาบ้างว่ามีโอกาสกำไรและขาดทุน
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการทุนประกันสูงๆ เบี้ยต่ำๆ เพราะเราสามารถกำหนดเองได้
  • เหมาะกับผู้ที่วางแผนการเงินระยะยาว
  • เหมาะในการวางแผนการประกันสุขภาพแบบ Long Term Health Care คือ จ่ายเบี้ยในระยะเริ่มแรกสูงกว่าปกติ แต่ในระยะยาว เมื่ออายุมากขึ้น ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเลย เพื่อให้มูลค่าในกองทุนเลี้ยงตัวมันเอง
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิด ถึง อายุ 45 ปี ที่ต้องการออมเงิน และวางแผนเรื่องการทำ Long Term Health Care
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีหนี้สินระยะยาว ต้องการความคุ้มครองสูง   

 แบบประกันชีวิต ทั้ง 4 แบบ เป็นแบบที่ยังมีขายอยู่ในตลาดในปัจจุบันนี้  และสามารถนำเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีได้เต็มมูลค่าสูงสุดถึง 100,000 บาทต่อปี 

ประกันบำนาญ

ประกันบำนาญ  เป็นประกันที่ช่วยให้เราเก็บเงินอย่างมีระบบ และมีการการันตีผลตอบแทน เพื่อเราจะได้มีเงินใช้ในยามเกษียณอย่างแน่นอน  และที่สำคัญ ช่วงที่ออมเงินก่อนวัยเกษียณยังสามารถนำเงินออมที่เรียกว่าเบี้ยประกันบำนาญมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 200,000 บาทอีกด้วย


ติดต่อตัวแทน










0 ความคิดเห็น